เมนู

อุปมาหิ นามรูปวิภาวนา

[673] เอวํ อเนกสเตหิ สุตฺตนฺเตหิ นามรูปเมว ทีปิตํ, น สตฺโต น ปุคฺคโลฯ ตสฺมา ยถา อกฺขจกฺกปญฺชรอีสาทีสุ องฺคสมฺภาเรสุ เอเกนากาเรน สณฺฐิเตสุ รโถติ โวหารมตฺตํ โหติ, ปรมตฺถโต เอเกกสฺมิํ องฺเค อุปปริกฺขิยมาเน รโถ นาม นตฺถิฯ ยถา จ กฏฺฐาทีสุ เคหสมฺภาเรสุ เอเกนากาเรน อากาสํ ปริวาเรตฺวา ฐิเตสุ เคหนฺติ โวหารมตฺตํ โหติ, ปรมตฺถโต เคหํ นาม นตฺถิฯ ยถา จ องฺคุลิองฺคุฏฺฐาทีสุ เอเกนากาเรน ฐิเตสุ มุฏฺฐีติ โวหารมตฺตํ โหติฯ โทณิตนฺติอาทีสุ วีณาติฯ หตฺถิอสฺสาทีสุ เสนาติฯ ปาการเคหโคปุราทีสุ นครนฺติฯ ขนฺธสาขาปลาสาทีสุ เอเกนากาเรน ฐิเตสุ รุกฺโขติ โวหารมตฺตํ โหติ, ปรมตฺถโต เอเกกสฺมิํ อวยเว อุปปริกฺขิยมาเน รุกฺโข นาม นตฺถิฯ เอวเมวํ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ สติ ‘‘สตฺโต, ปุคฺคโล’’ติ โวหารมตฺตํ โหติ, ปรมตฺถโต เอเกกสฺมิํ ธมฺเม อุปปริกฺขิยมาเน ‘‘อสฺมีติ วา อหนฺติ วา’’ติ คาหสฺส วตฺถุภูโต สตฺโต นาม นตฺถิฯ ปรมตฺถโต ปน นามรูปมตฺตเมว อตฺถีติฯ เอวํ ปสฺสโต หิ ทสฺสนํ ยถาภูตทสฺสนํ นาม โหติฯ

[674] โย ปเนตํ ยถาภูตทสฺสนํ ปหาย ‘‘สตฺโต อตฺถี’’ติ คณฺหาติฯ โส ตสฺส วินาสํ อนุชาเนยฺย อวินาสํ วาฯ อวินาสํ อนุชานนฺโต สสฺสเต ปตติฯ วินาสํ อนุชานนฺโต อุจฺเฉเท ปตติฯ กสฺมา? ขีรนฺวยสฺส ทธิโน วิย ตทนฺวยสฺส อญฺญสฺส อภาวโตฯ โส ‘‘สสฺสโต สตฺโต’’ติ คณฺหนฺโต โอลียติ นามฯ ‘‘อุจฺฉิชฺชตี’’ติ คณฺหนฺโต อติธาวติ นามฯ เตนาห ภควา –

‘‘ทฺวีหิ, ภิกฺขเว, ทิฏฺฐิคเตหิ ปริยุฏฺฐิตา เทวมนุสฺสา โอลียนฺติ เอเก, อติธาวนฺติ เอเก, จกฺขุมนฺโต จ ปสฺสนฺติฯ

‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, โอลียนฺติ เอเก? ภวารามา, ภิกฺขเว, เทวมนุสฺสา ภวรตา ภวสมุทิตาฯ เตสํ ภวนิโรธาย ธมฺเม เทสิยมาเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺฐติ นาธิมุจฺจติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, โอลียนฺติ เอเกฯ

‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, อติธาวนฺติ เอเก? ภเวเนว โข ปเนเก อฏฺฏียมานา หรายมานา ชิคุจฺฉมานา วิภวํ อภินนฺทนฺติ, ยโต กิร โภ อยํ อตฺตา กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ, น โหติ ปรํมรณา, เอตํ สนฺตํ, เอตํ ปณีตํ, เอตํ ยาถาวนฺติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, อติธาวนฺติ เอเกฯ

‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, จกฺขุมนฺโต ปสฺสนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ภูตํ ภูตโต ปสฺสติ, ภูตํ ภูตโต ทิสฺวา ภูตสฺส นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, จกฺขุมนฺโต ปสฺสนฺตี’’ติ (อิติวุ. 49)ฯ

[675] ตสฺมา ยถา ทารุยนฺตํ สุญฺญํ นิชฺชีวํ นิรีหกํ, อถ จ ปน ทารุรชฺชุกสมาโยควเสน คจฺฉติปิ ติฏฺฐติปิฯ สอีหกํ สพฺยาปารํ วิย ขายติ, เอวมิทํ นามรูปมฺปิ สุญฺญํ นิชฺชีวํ นิรีหกํ, อถ จ ปน อญฺญมญฺญสมาโยควเสน คจฺฉติปิ ติฏฺฐติปิฯ สอีหกํ สพฺยาปารํ วิย ขายตีติ ทฏฺฐพฺพํฯ เตนาหุ โปราณา –

‘‘นามญฺจ รูปญฺจ อิธตฺถิ สจฺจโต,

น เหตฺถ สตฺโต มนุโช จ วิชฺชติ;

สุญฺญํ อิทํ ยนฺตมิวาภิสงฺขตํ,

ทุกฺขสฺส ปุญฺโช ติณกฏฺฐสาทิโส’’ติฯ

น เกวลญฺเจตํ ทารุยนฺตุปมาย, อญฺญาหิปิ นฬกลาปีอาทีหิ อุปมาหิ วิภาเวตพฺพํ – ยถา หิ ทฺวีสุ นฬกลาปีสุ อญฺญมญฺญํ นิสฺสาย ฐปิตาสุ เอกา เอกิสฺสา อุปตฺถมฺโภ โหติ, เอกิสฺสา ปตมานาย อิตราปิ ปตติ, เอวเมวํ ปญฺจโวการภเว นามรูปํ อญฺญมญฺญํ นิสฺสาย ปวตฺตติ, เอกํ เอกสฺส อุปตฺถมฺโภ โหติฯ มรณวเสน เอกสฺมิํ ปตมาเน อิตรมฺปิ ปตติฯ เตนาหุ โปราณา –

‘‘ยมกํ นามรูปญฺจ, อุโภ อญฺโญญฺญนิสฺสิตา;

เอกสฺมิํ ภิชฺชมานสฺมิํ, อุโภ ภิชฺชนฺติ ปจฺจยา’’ติฯ

[676] ยถา จ ทณฺฑาภิหตํ เภริํ นิสฺสาย สทฺเท ปวตฺตมาเน อญฺญา เภรี, อญฺโญ สทฺโท, เภริสทฺทา อสมฺมิสฺสา, เภรี สทฺเทน สุญฺญา, สทฺโท เภริยา สุญฺโญ, เอวเมวํ วตฺถุทฺวารารมฺมณสงฺขาตํ รูปํ นิสฺสาย นาเม ปวตฺตมาเน อญฺญํ รูปํ, อญฺญํ นามํ, นามรูปา อสมฺมิสฺสา, นามํ รูเปน สุญฺญํ, รูปํ นาเมน สุญฺญํ, อปิจ โข เภริํ ปฏิจฺจ สทฺโท วิย รูปํ ปฏิจฺจ นามํ ปวตฺตติฯ เตนาหุ โปราณา –

‘‘น จกฺขุโต ชายเร ผสฺสปญฺจมา,

น รูปโต โน จ อุภินฺนมนฺตรา;

เหตุํ ปฏิจฺจปฺปภวนฺติ สงฺขตา,

ยถาปิ สทฺโท ปหฏาย เภริยาฯ

‘‘น โสตโต ชายเร ผสฺสปญฺจมา,

น สทฺทโต โน จ อุภินฺนมนฺตรา…เป.…ฯ

‘‘น ฆานโต ชายเร ผสฺสปญฺจมา,

น คนฺธโต โน จ อุภินฺนมนฺตรา…เป.…ฯ

‘‘น ชิวฺหาโต ชายเร ผสฺสปญฺจมา,

น รสโต โน จ อุภินฺนมนฺตรา…เป.…ฯ

‘‘น กายโต ชายเร ผสฺสปญฺจมา,

น ผสฺสโต โน จ อุภินฺนมนฺตรา…เป.…ฯ

‘‘น วตฺถุรูปา ปภวนฺติ สงฺขตา,

น จาปิ ธมฺมายตเนหิ นิคฺคตา;

เหตุํ ปฏิจฺจปฺปภวนฺติ สงฺขตา,

ยถาปิ สทฺโท ปหฏาย เภริยา’’ติฯ

[677] อปิเจตฺถ นามํ นิตฺเตชํ น สเกน เตเชน ปวตฺติตุํ สกฺโกติ, น ขาทติ, น ปิวติ, น พฺยาหรติ, น อิริยาปถํ กปฺเปติฯ รูปมฺปิ นิตฺเตชํ น สเกน เตเชน ปวตฺติตุํ สกฺโกติฯ น หิ ตสฺสา ขาทิตุกามตา, นาปิ ปิวิตุกามตา, น พฺยาหริตุกามตา, น อิริยาปถํ กปฺเปตุกามตา, อถ โข นามํ นิสฺสาย รูปํ ปวตฺตติ, รูปํ นิสฺสาย นามํ ปวตฺตติ, นามสฺส ขาทิตุกามตาย ปิวิตุกามตาย พฺยาหริตุกามตาย อิริยาปถํ กปฺเปตุกามตาย สติ รูปํ ขาทติ, ปิวติ, พฺยาหรติ, อิริยาปถํ กปฺเปติฯ

อิมสฺส ปนตฺถสฺส วิภาวนตฺถาย อิมํ อุปมํ อุทาหรนฺติ – ยถา ชจฺจนฺโธ จ ปีฐสปฺปี จ ทิสาปกฺกมิตุกามา อสฺสุ, ชจฺจนฺโธ ปีฐสปฺปิํ เอวมาห ‘‘อหํ โข ภเณ, สกฺโกมิ ปาเทหิ ปาทกรณียํ กาตุํ, นตฺถิ จ เม จกฺขูนิ เยหิ สมวิสมํ ปสฺเสยฺย’’นฺติฯ ปีฐสปฺปีปิ ชจฺจนฺธํ เอวมาห ‘‘อหํ โข ภเณ, สกฺโกมิ จกฺขุนา จกฺขุกรณียํ กาตุํ, นตฺถิ จ เม ปาทานิ เยหิ อภิกฺกเมยฺยํ วา ปฏิกฺกเมยฺยํ วา’’ติฯ โส ตุฏฺฐหฏฺโฐ ชจฺจนฺโธ ปีฐสปฺปิํ อํสกูฏํ อาโรเปสิฯ ปีฐสปฺปี ชจฺจนฺธสฺส อํสกูเฏ นิสีทิตฺวา เอวมาห ‘‘วามํ มุญฺจ ทกฺขิณํ คณฺห, ทกฺขิณํ มุญฺจ วามํ คณฺหา’’ติฯ

ตตฺถ ชจฺจนฺโธปิ นิตฺเตโช ทุพฺพโล น สเกน เตเชน สเกน พเลน คจฺฉติ, ปีฐสปฺปีปิ นิตฺเตโช ทุพฺพโล น สเกน เตเชน สเกน พเลน คจฺฉติ, น จ เตสํ อญฺญมญฺญํ นิสฺสาย คมนํ นปฺปวตฺตติ, เอวเมวํ นามมฺปิ นิตฺเตชํ น สเกน เตเชน อุปฺปชฺชติ, น ตาสุ ตาสุ กิริยาสุ ปวตฺตติฯ รูปมฺปิ นิตฺเตชํ น สเกน เตเชน อุปฺปชฺชติ, น ตาสุ ตาสุ กิริยาสุ ปวตฺตติ, น จ เตสํ อญฺญมญฺญํ นิสฺสาย อุปฺปตฺติ วา ปวตฺติ วา น โหติฯ เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘น สเกน พเลน ชายเร,

โนปิ สเกน พเลน ติฏฺฐเร;

ปรธมฺมวสานุวตฺติโน,

ชายเร สงฺขตา อตฺตทุพฺพลาฯ

‘‘ปรปจฺจยโต จ ชายเร,

ปรอารมฺมณโต สมุฏฺฐิตา;

อารมฺมณปจฺจเยหิ จ,

ปรธมฺเมหิ จิเม ปภาวิตาฯ

‘‘ยถาปิ นาวํ นิสฺสาย, มนุสฺสา ยนฺติ อณฺณเว;

เอวเมว รูปํ นิสฺสาย, นามกาโย ปวตฺตติฯ

‘‘ยถา จ มนุสฺเส นิสฺสาย, นาวา คจฺฉติ อณฺณเว;

เอวเมว นามํ นิสฺสาย, รูปกาโย ปวตฺตติฯ

‘‘อุโภ นิสฺสาย คจฺฉนฺติ, มนุสฺสา นาวา จ อณฺณเว;

เอวํ นามญฺจ รูปญฺจ, อุโภ อญฺโญญฺญนิสฺสิตา’’ติฯ

เอวํ นานานเยหิ นามรูปํ ววตฺถาปยโต สตฺตสญฺญํ อภิภวิตฺวา อสมฺโมหภูมิยํ ฐิตํ นามรูปานํ ยาถาวทสฺสนํ ทิฏฺฐิวิสุทฺธีติ เวทิตพฺพํฯ นามรูปววตฺถานนฺติปิ สงฺขารปริจฺเฉโทติปิ เอตสฺเสว อธิวจนํฯ

อิติ สาธุชนปาโมชฺชตฺถาย กเต วิสุทฺธิมคฺเค

ปญฺญาภาวนาธิกาเร

ทิฏฺฐิวิสุทฺธินิทฺเทโส นาม

อฏฺฐารสโม ปริจฺเฉโทฯ

19. กงฺขาวิตรณวิสุทฺธินิทฺเทโส

ปจฺจยปริคฺคหกถา

[678] เอตสฺเสว ปน นามรูปสฺส ปจฺจยปริคฺคหเณน ตีสุ อทฺธาสุ กงฺขํ วิตริตฺวา ฐิตํ ญาณํ กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ นามฯ

ตํ สมฺปาเทตุกาโม ภิกฺขุ ยถา นาม กุสโล ภิสกฺโก โรคํ ทิสฺวา ตสฺส สมุฏฺฐานํ ปริเยสติฯ ยถา วา ปน อนุกมฺปโก ปุริโส ทหรํ กุมารํ มนฺทํ อุตฺตานเสยฺยกํ รถิกาย นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘กสฺส นุ โข อยํ ปุตฺตโก’’ติ ตสฺส มาตาปิตโร อาวชฺชติ, เอวเมว ตสฺส นามรูปสฺส เหตุปจฺจยปริเยสนํ อาปชฺชติฯ

โส อาทิโตว อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ ‘‘น ตาวิธํ นามรูปํ อเหตุกํ, สพฺพตฺถ สพฺพทา สพฺเพสญฺจ เอกสทิสภาวาปตฺติโต, น อิสฺสราทิเหตุกํ, นามรูปโต อุทฺธํ อิสฺสราทีนํ อภาวโตฯ เยปิ นามรูปมตฺตเมว อิสฺสราทโยติ วทนฺติ, เตสํ อิสฺสราทิสงฺขาตนามรูปสฺส อเหตุกภาวปฺปตฺติโตฯ ตสฺมา ภวิตพฺพมสฺส เหตุปจฺจเยหิ, เก นุ โข เต’’ติฯ

[679] โส เอวํ นามรูปสฺส เหตุปจฺจเย อาวชฺเชตฺวา อิมสฺส ตาว รูปกายสฺส เอวํ เหตุปจฺจเย ปริคฺคณฺหาติ – ‘‘อยํ กาโย นิพฺพตฺตมาโน เนว อุปฺปลปทุมปุณฺฑรีกโสคนฺธิกาทีนํ อพฺภนฺตเร นิพฺพตฺตติ, น มณิมุตฺตาหาราทีนํ, อถ โข อามาสยปกฺกาสยานํ อนฺตเร อุทรปฏลํ ปจฺฉโต ปิฏฺฐิกณฺฏกํ ปุรโต กตฺวา อนฺตอนฺตคุณปริวาริโต สยมฺปิ ทุคฺคนฺธเชคุจฺฉปฏิกฺกูโล ทุคฺคนฺธเชคุจฺฉปฏิกฺกูเล ปรมสมฺพาเธ โอกาเส ปูติมจฺฉปูติกุมฺมาสโอฬิคลฺลจนฺทนิกาทีสุ กิมิว นิพฺพตฺตติฯ ตสฺเสวํ นิพฺพตฺตมานสฺส ‘อวิชฺชา ตณฺหา อุปาทานํ กมฺม’นฺติ อิเม จตฺตาโร ธมฺมา นิพฺพตฺตกตฺตา เหตุ, อาหาโร อุปตฺถมฺภกตฺตา ปจฺจโยติ ปญฺจ ธมฺมา เหตุปจฺจยา โหนฺติฯ เตสุปิ อวิชฺชาทโย ตโย อิมสฺส กายสฺส มาตา วิย ทารกสฺส อุปนิสฺสยา โหนฺติฯ